ขั้นตอนและแบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหม
โทรแจ้งเหตุที่ ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ 24 ชม. โทร. 02 037 9955 พร้อมแจ้งข้อมูลรายละเอียดกรมธรรม์ อาทิ เลขที่กรมธรรม์ ชื่อผู้เอาประกันภัย ทะเบียนรถ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบกรมธรรม์
วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อรถยนต์ของท่านประสบอุบัติเหตุ กรุณาติดต่อ ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ 24 ชม. โทร. 02 037 9955 พร้อมแจ้งข้อมูลเพื่อความรวดเร็วในการบริการ
- ยี่ห้อ/ทะเบียนรถ/สีรถ
- หมายเลขกรมธรรม์/ชื่อผู้เอาประกันภัย
- ชื่อผู้ขับขี่ขณะเกิดอุบัติเหตุ
- ลักษณะการเกิดเหตุ
- ยี่ห้อ/ทะเบียนรถคู่กรณี (ถ้ามี)
- สถานที่เกิดอุบัติเหตุ ชื่อถนน ซอย และสถานที่ใกล้เคียงที่สังเกตุเห็นชัด
- ถ้ามีการเคลื่อนย้ายจุดนัดหมาย โปรดแจ้งให้บริษัททราบ
- ห้ามบันทึกการยอมรับผิดให้บุคคลใด เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากบริษัท
- ถ้าถูกรถยนต์คันอื่นชนแล้วหนี ให้จดทะเบียน ยี่ห้อ สีรถ หรือถ่ายภาพ ไว้เป็นหลักฐาน
กรณีรถยนต์ท่านเสียหายเล็กน้อยและไม่มีคู่กรณี ท่านสามารถติดต่อเข้าซ่อมได้ที่อู่ในเครือตามรายชื่ออู่ที่ปรากฏ
- ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่ออู่ในสัญญาจากเว็บไซต์ของบริษัท หรือสอบถามรายชื่ออู่ในสัญญาจากบริษัทโดยตรง
- กรณีท่านมีใบหลักฐานรายการความเสียหายแล้ว ให้นำเอกสารนั้นไปติดต่อกับอู่ในสัญญาเพื่อนัดซ่อมรถยนต์ได้ทันที ทางอู่จะประสานการซ่อมกับบริษัทโดยตรง
- กรณีท่านยังไม่มีหลักฐานรายการความเสียหาย หรือยังไม่ได้แจ้งอุบัติเหตุ ให้ผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุนำรถยนต์พร้อมใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไปติดต่อที่อู่ ทางอู่จะดำเนินการประสานงานซ่อมกับบริษัท หรือนัดหมายพนักงานบริษัทมาดำเนินการตรวจสอบความเสียหายและสั่งซ่อม
- เมื่อรถยนต์ซ่อมเสร็จแล้ว ท่านตรวจสอบความเรียบร้อยการซ่อม และเซ็นต์รับรองการซ่อมรถยนต์ให้อู่ ทางอู่จะเป็นผู้ติดต่อค่าซ่อมกับบริษัทโดยตรง
- แจ้งความประสงค์ให้บริษัททราบ โดยแจ้งข้อมูลเลขเคลม ชื่ออู่ และรถยนต์ที่จะเข้าซ่อม
- นำรถยนต์และใบหลักฐานความเสียหายของบริษัทไปติดต่ออู่นั้น เพื่อทำใบเสนอราคาค่าซ่อม
- เมื่อได้รับใบเสนอราคาแล้ว กรุณาติดต่อบริษัทพร้อมจัดส่งใบเสนอราคา
- บริษัทจะนัดหมายตรวจสอบความเสียหายและคุมราคาซ่อม
- บริษัทจะแจ้งราคาประเมินค่าซ่อมให้ท่านทราบ
- เมื่ออู่ทำการซ่อม จะต้องถ่ายภาพขณะซ่อม ภาพอะไหล่ที่เปลี่ยน และภาพรถยนต์ซ่อมเสร็จ
- ให้อู่ออกใบแจ้งหนี้ และหรือใบเสร็จรับเงิน ตามจำนวนที่บริษัทประเมินราคา
- ให้ท่านส่งใบแจ้งหนี้ และหรือใบเสร็จรับเงิน หลักฐานความเสียหายของบริษัท ภาพถ่ายวางเบิกกับบริษัท
- บริษัทจะจ่ายค่าซ่อมตามตกลงกันภายใน 15 วัน นับจากได้รับเอกสารครบถ้วน
1.กรณีการจัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรืออู่ ที่ไม่ใช่คู่สัญญาของบริษัทประกันภัย
การประเมินความเสียหายก่อนการจัดซ่อม
(ก) กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- ใบประเมินราคาค่าซ่อม
- ภาพถ่ายความเสียหายของรถยนต์ตามใบประเมินราคาค่าซ่อมที่เกิดจากอุบัติเหตุ
(ข) กรณีรถยนต์คู่กรณี นอกจากใช้เอกสารตามข้อ 1. (ก) แล้ว ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล) ของเจ้าของหรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรณีรถซ่อมแล้วเสร็จ
(ค) กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- ใบเสร็จรับเงิน และหรือใบกำกับภาษี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- ภาพถ่ายรถยนต์ และชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์รถยนต์ระหว่างซ่อม และภายหลังจัดช่อมเสร็จ
- หลักฐานการตรวจสภาพรถยนต์ที่จัดซ่อมแล้วเสร็จ
(ง) กรณีรถยนต์คู่กรณี นอกจากใช้เอกสารตามหมายเลข 1. และ 4. ของข้อ 1. (ค) แล้ว ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล) ของเจ้าของ หรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
2.กรณีการจัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรืออู่ คู่สัญญาของบริษัทประกันภัย
(ก) กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาเอกสารหลักฐานที่ทางราชการออกให้ของผู้ส่งมอบรถยนต์เข้าซ่อม
(ข) กรณีรถยนต์คู่กรณี นอกจากใช้เอกสารตามข้อ 2. (ก) แล้ว ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบอนุญาตชับขี่หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) ของเจ้าของ หรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
3. ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือค่าเสื่อมราคารถ
- ต้นฉบับหรือสำเนาใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หลักฐานที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหรือค่าเสื่อมราคารถ เช่น สำเนาใบนำรถเข้าจัดซ่อม/ใบรับรถ รายการอะไหล่ที่ใช้ในการจัดช่อมสำเนาใบเสร็จรับเงินค่าซ่อม (ถ้ามี)
4. กรณีความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ต้นฉบับใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- เอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของทรัพย์สิน
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของทรัพย์สินมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หลักฐานที่แสดงรายละเอียดความเสียหาย มูลค่า ระยะเวลาการจัดซ่อม เป็นต้น
5. กรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง (Total Loss)
(ก) กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัยหรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
- คู่มือจดทะเบียนรถ
- สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
- สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)
(ข) กรณีสถาบันการเงิน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยซน์ นอกจากใช้เอกสารตามข้อ 5. (ก) แล้ว ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เอกสารการเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์
- หนังสือสละสิทธิ์ในการรับคำสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์
6. กรณีรถยนต์สูญหาย
(ก) กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่หรือหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- แบบหนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
- คู่มือจดทะเบียนรถ
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล)
- สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
- สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)
- เอกสารการยกเลิกการใช้รถ
(ข) กรณีสถาบันการเงิน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ นอกจากใช้เอกสารตามข้อ 6. (ก) แล้ว ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เอกสารการเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์
- หนังสือสละสิทธิ์ในการรับสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์
7. กรณีบาดเจ็บ ทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ
- สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่หรือหนังสือเดินทางหรือหลักฐานอื่นที่รับรองตัวขอผู้ประสบภัย
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)
- ใบรับรองแพทย์ และ/หรือประวัติการรักษาของแพทย์
- ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล หรือสำเนาใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่มีหลักฐานแสดงว่ายังไม่ได้รับชดใช้เต็มจำนวนตามใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว
8. กรณีผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลภายนอกเสียชีวิต
- สำเนาใบมรณบัตร
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต หรือหนังสือเดินทาง (กรณีผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลต่างด้าว)
- เอกสารแสดงการเป็นทายาททุกคนของผู้เสียชีวิต ได้แก่ สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น
- เอกสารของทายาททุกคนของผู้เสียชีวิตที่รับค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน,สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น
- คำสั่งศาลให้บุคคลทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ (กรณีที่ทายาทผู้เสียชีวิตเป็นผู้เยาว์)
- หนังสือรับรองยืนยันการเป็นทายาทของสถานทูตหรือสถานกงสุล พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย (กรณีเป็นทายาทของบุคคลต่างด้าว)
- หนังสือมอบอำนาจของทายาท และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีทายาทมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)
- สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
- กรณีกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายในระยะเวลา 7 วัน
- กรณีเป็นกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนทันทีหรือภายในระยะเวลา 15 วัน
ทั้งนี้นับตั้งแต่วันที่ตกลงค่าสินไหมดและบริษัทได้รับเอกสารถูกต้องครบถ้วน
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อศูนย์ซ่อมทั่วประเทศ คลิก
แอปคู่ใจคนใช้รถ บริการดีๆ สำหรับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพียง Scan QR Code หรือคลิก ที่นี่